คำกลอนแหล่อีสาน มัทรีคำกลอน
มัทรีคำกลอน
คราวนงค์นางแก้วแววมณีสีปราชฌ์ ผู้ฉลาดโลกนี้มัทรีอ้างห่างนามพอมาเสนมาตรข้ามถึงเขต ๗ เดือนทำเพียรถือศีลถิ่นวงศ์
กตกว้าง ดวงมโนโสได้มรรคาไล่ปราสาทบ่ขยาดยอนย้านมารกล้าสิผ่าฟัน
ปกติทุกมื้อนั้นเดินลั่นเนินผาแสวงหากอยมันเผือกผลผลาไม้
มื้อหนึ่งตะวันได้แสงลายลับมอดพระจันทร์ทอดส่องพื้นแหนใต้หมอกบัง
มองเบิ่งเมฆกายกั้งดุจดังอาสาวะผู้บ่มีความกิเลสแหงาใจเฮ้า
มัทรีอุ้มบุตรน้อยทั้งสองนอนกอดมือต่างหูปประนมกร
วอนถึงศีลที่สร้างไว้หทัยอ้างเพิงพาเสียงลมพัดซู่ซ่าสะบัดป่าสังหรณ์ ล้มหัวนอนลงไปสะเดิดตื่นทั้งเผอว่าโตเผอหรือร่างร้ายอัดลายบ่ฮู้ฮ่อง ครองสติลุกขึ้นยืนง้วงอ่อนโหย
คันพระนางสิฮ้องโอ้ยกระเสียป่าวบ่มีทอง จุดกระบองดูบุตรเงียบดีนอนนิ่ง พูดตามจริงลางเข้ามัทรีเนาว์บ่ฮู้ส่อง
นั่งสำรวมสติครองกัมมัฏฐานอ่านได้กระบองไต่มอดแสง
มองไปไสกระบ่แจ้งพระพายแก่งลมตี คือจั่งมีคนเคาะปองหลายตั้งหลายครั้ง ดวงจิตตั้งพะวังหล่าจนเวลาดึกดื่น
ตาบ่มืนหลับคับได้คราวน้อยบัดเกิดลาง ฟันว่านางถูกช้างวิ่งไล่ใจหาย แลนหมีตายผัดมีชายร่างกายหมินหม่อ
มาจับคอพระนางไว้ตกกะใจได้ฮ้องโฮ่ เบิ่งกายาตนโตหูตาฟันและแขวคือด้ามยักมาร มัทรีนางแฮ่งย้านวอนอ่านขอชีวิต
มันบ่ไขความผิดต่อมัทรีทั้งนั้น จับพระขันดวงกล้ามาเจาะตาสองลูก ผูกขามือแล้วงัดไง้หัวใจน้อยแล่นหนี ฝันแต่เพียงท่อนี้
สะดุ้งตื่นตนลุก คันสิปุกกุมารย้านบ่มีทางแก้ รุกไปแก้กองไฟหาจับโด้นมากมเป่า จับกระบองพองขี้เทากว่าไฟสิลุกได้ใจเต้นเสม่นคีง ถ้าหากนางอยู่นิ่ง
บ่เผยบอกคนใด กลัวจักมีเวรภัยไล่นำจำจ้อ โงคอทางทวารเอี้ยมเจียมตัวทั้งสั่น ขณะนั้นดวงจันทร์ผัดแฮ่งคือจั่งเศร้าปบอบเป้าจอบหรณ์ ใจมัทรีแฮ่งฮ้อน
ลมอ่อนหยุดเสียง ตาสำเรียงดูบุตรลูกลุนสองน้อย
คันสิกอยใจเอิ้นเอาไปพอเป็นหมู่พองย้านลูกทั้งคู่ตื่นตะหนกโอดฮ้องพระนางย้องพองยอง
แต่นางพลัดพรากห้องทรงแทนมาเนาว์ไพร ไผสิทายให้เบาใจเรื่องความฝันฮ้าย
เป็นหรือตายไปหาพี่พระสามีสิดีกว่า จักฝันดีหรือฝันชั่วมัทรีนางบ่ฮู้อดสู้ย้ายยางดง
ถึงอาศรมบทแล้วศาลาแก้วกู่เคาะประตูสามทีกราบพี่สงัดนิ่ง
เสียงพี่ตึงตัวซ้งมัทรีนางฟังอยู่ มัทรีนางฟังดูพองย้านพระพี่ฮ้ายประนมไหว้นั่งครองนอโยม...............นอ
#คำกลอนแหล่อีสาน #กลอนแหล่นางมัทรี #เทศน์แหล่อีสาน #หัดเทศน์แหล่อีสาน
0 ความคิดเห็น