คนเลี้ยงแพะ  นิทานอีสป

                วันหนึ่งเกิดพายุลมแรงพัดพามาพร้อมกลุ่มเมฆฝนอย่างรุนแรง ขณะนั้นคนเลี้ยงแพะที่กำลังพาฝูงแพะของตนกลับที่พัก จึงได้พาฝูงแพะเข้าไปหลบพายุฝนฟ้ากระหน่ำในถ้ำเสียก่อน เมื่อเข้ามายังถ้ำก็พบกับฝูงแพะป่าหลบอยู่ในถ้ำนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อเห็นดังนั้นจึงคิดในใจว่าแพะป่าฝูงใหญ่นี้มีแพะมากกว่าฝูงของตนหลายเท่านัก หากตนนำฝูงแพะป่าพวกนี้มาเลี้ยงแทนแพะฝูงเดิมก็น่าจะเป็นการดีกว่า จากนั้นจึงได้นำใบไม้ของตนที่เตรียมมาสำหรับให้ฝูงแพะตนได้กิน ก็กลับเอาไปให้ฝูงแพะป่ากินกันจนหมดเกลี้ยง ทำให้ฝูงแพะของตนนั้นไม่ได้กินอาหารอันใดเลย 



สักครู่ใหญ่ๆ ต่อมาเมื่อพายุฝนฟ้าเริ่มสงบลงแล้ว ฝูงแพะป่าก็ต่างวิ่งออกจากถ้ำไป คนเลี้ยงแพะรีบวิ่งออกไปตามแต่ฝูงแพะป่าก็รีบวิ่งเข้าป่าหายไปอย่างรวดเร็ว คนเลี้ยงแพะจึงตะโกนไล่หลังฝูงแพะป่าไปว่า “ไอ้พวกอกตัญญู ข้าอุตส่าห์ให้เจ้ากินอาหารจนหมดแล้วทำอย่างนี้กับข้าหรือ”

และไม่ว่าจะตะโกนสบถด่าออกไปเช่นไรก็ตาม เหล่าฝูงแพะป่าก็ไม่ย้อนกลับมาสักตัว ฝ่ายคนเลี้ยงแพะจึงกลับเข้าไปยังถ้ำเดิมที่ใช้หลบพายุฝนเมื่อสักครู่นี้ ขณะเดินเข้าไปก็ตกใจเป็นอันมากเพราะเหล่าฝูงแพะเดิมของตนนั้นบัดนี้ได้ล้มตายลงกันหมดแล้วเพราะขาดอาหาร

คนเลี้ยงแพะเห็นดังนั้นก็ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นดินได้แต่ร้องไห้อยู่ตรงนั้นด้วยความเสียดายระคนเสียใจปนเปกันไปหมด สุดท้ายเมื่อพวกชาวบ้านรู้เรื่องเข้าต่างก็พากันหัวเราะเยาะในความเขลาของคนเลี้ยงแพะ



คติสอนใจจากนิทานอีสปเรื่องนี้ :   “เห็นเเก่มิตรใหม่จนทอดทิ้งมิตรเก่า ก็จะไม่ได้ใครเลย”