บทกลอนแหล่อีสาน  เทศน์แหล่เวรตะ รีลาวดี


บัดนี้... เจริญพรมาเห็นหน้า  โยมศัทธาพี่น้องใหม่ พี่น้องไกลพี่น้องใกล้

ที่ไหลเข้าให้ลั้งมา  พวกพ่อลุงแม่ป้าคะน้าบ่าวอาวอา ทั้งสีกาคะนานับ 

หมู่สตรีหน่อสาวน้อย    เอ่ยมื่อนี้เป็นวันเริ่มผ่านมาบ่แปรเปลี่ยน  เดือนกะเดือนอีเกิ่ง

เต็มคืนกะมันยัง  

มองเห็นยุงหน่อเห็นแย้มกะแก่มว่าสวรรค์แก่ม 

ผู้ไปแม้หลานคนเดียวกะแก่มแก่ไปใส่จอย

เมามัวหูแต่หนุ่มน้อย  กะถึงว่าเป็นขอแปลกแยกไปไสเบิกหมองก้อม  

สายตาจ้องซองบ่วาง  เอ่ย มื่อนี้เจ้าภาพท่านได้ปรารภถึงคนตาย   

ท่านผู้วายชีวิตจากไปกะเสียแล้ว

บ่อมีวันคืนมาเยี่ยม  กลับมาพ้อกันอีก  หย่ามไปค้าไปขายกะยังมีมื่อซิโค้งหน้าห่าหลัง

นี้ผัดจากไปแล้ว บ่มีวันคืนหวนกลับ สุริโยล่วงลับเมื่ออื่นมายังพ้อ   ตายไปน้อบ่เห็นหน้า

จังไปดีหรือไปชั่ว  ไปนรกหรือสวรรค์  ญาติพี่น้องกะบ่อฮู้  กะเห็นซ้นเงื่อนไป

คือผู้ตายที่ละได่มีคุณมากเหลือขนาน คราวเวลาบ่ทันตายได้ก่อทำดีไว้

จังว่าว่ามาเด้อดวงวิญญาณคุณแม่...... ว่ามาเด้อขัดได้ยินเสียงเอิ้น เสียงเวิ้นๆๆเอิ้นวอนวอน

ว่ามาเด้อมาเอาบุญซากก่อน มาฟังเทศน์ซากก่อน   

แล้วจังกลับหน่อสู่ฟ้าวิมารแก้ว เจ้าแซวดาวนั้นละน่า  ว่ามาเด้อๆ...โอ้ยๆๆๆๆ..หนอ


    จังว่าในตอนนี้ เรวตะน้อยกอยพาที แถลงกล่าว จิตกะสันให้โอ้อ่าว ถึงความจนเข้าบีบคัน

ตันตี้นระหว่างคอ  ชาติว่าหน่อนิลแก้วบ่คือพลอยกันสูงค่า แนวไก่ป่าแล่นเข้าบ้าน  บ่มีมื้อว่าซิขัน

อันแน่ววังแน่นจานบ่สมมู่กูลชโลม สู่ซิเอาไปฉันบ่ลงกะคงแย่   เฮาเป็นแพรหน่อพื้นโป้ ใบหมากโก

ฝ้ายเส้นใหญ่ ห่มเข้าเมืองศรีวิไล ย้านคนหัวเยาะเย้ยย้ามหน้าว่าประจาน   บุญสมพานพลาน้อย บ่หวังค่อยได้ช้อนบ่วง

สมแต่หอยจิ๊บจี้ที่เค้าทิ้งอยู่ฝังมูล   ทุนบ่มีซิขายค้า ซิยืมคนกะจนท่า  เฮาเป็นเชื้อไผ่บ้านบ่หารสู้ดอกไผ่เมือง

แสงตะเกียงกับไฟฟ้า มันไกลกันคนละโลก  โชคของเฮาบ่ข้างแม่นแทงล่วงถูกแต่ทอง 

เฮาเคยนอนสาดพึ่งมุง หมุนหมอนเฟื่องเลี้ยงครัวจอย  อย่าหวังกะรอคอยซิได้นอนฟูกนิ่มที่หมอแก้วที่แซวคำ

อันแนวซินกะดามซิสมกะแต่มื้อบ่คือซู่มนกกะเจ่า  ทุกข์กระอยู่พอเฮา  กินปลาแดกปลาร้า ซุปหมากเกลือ

อย่าหวังคอยซิกินเนื้อ ผัดมันบ้านผู้อื่น  ยังค่อยย่ำยังค่อยกลืน ปลาแดกเครื่องข้าวโม้  ยังซิฮู้ว่ารสหวาน

เฮาเป็นซู่จันทาน อยู่ตามป่าริมดง  ซิไปลงสังฆกรรม ร่วมพวกพรามณ์จังได่ได้  

เพิ่นเป็นไหมเฮาเป็นฝ้าย ตำเป็นผืนแพรลาย บ่เป็นก้าวพอไหง่ ไหมกะอยู่นั้นส่วนไหม ฝ้ายให้อยู่แต่ส่วนฝ้าย

อย่าหมายเกี่ยวกะเกี่ยวไหม ไม้ให้อยู่แต่ส่วนไม้ อย่าไปฮวมดิน มันซิเกินคือดินห้าละห่างกันเถืองฟ้า

แขวกะมีให้สู้  หูมีฟังตามีเบิง เห็นเพิ่นเซิ้งกะอยากเซิ้ง แล้วกะหยอนบ่ถูกของ   ลูกพ่อเกินขัดข้อง

พ่อแม่ทั้งสอง พู้เคยเลี้ยงเพียรพร่ำ ทรมาทรกรรม ขึ้นว่าเป็นลูกจ้าง พอปานช้างลากพูน  

ชีวิตจนแสนจน ถึงบ่มีเสื้อผ้า ฝากเฮือนดีบ่ลี้อยู่   พักอีตู่พอโพนกะเหี้ยน เก็บไส่แกงหน่อไม้กะคัยกว่าบัวเลย

ลูกบ่เคยซิใกล้ข้าง สองพรมณ์พู้เลี้ยงบ่เถือ  ขอกินพริกกินเกลือ อยู่กะพ่อแม่เจ้าอย่าหาเว่าว่าให้ไป

ลูกเป็นเชื้อชาติไพร บ่ยอมไปบ่าวนอนหนาวไปต่างหว่าง  เมื่อชีวิตอับปางคันขาดพ่อแม่ตุ่ม

แม่นทนได่ กะบ่ดีนั้นละน่า  อีพ่อเอ๋ย.....






#กลอนแหล่อีสาน#กลอนแหล่ #เทศน์แหล่อีสาน #หัดลำหัดแหล่#บทกลอนแหล่# แหล่อีสาน #บทกลอน

#พระเทศน์แหล่#เเทศน์แหล่อีสาน เรื่อง ลีลาวดี นักเทศน์ดังม่วนๆ#เนื้อกลอนแหล่#เทศน์ แหล่ มือถือสาก ปากถือศีล#เทศน์แหล่ ปรยุกต์#เทศน์ แหล่#ฟังพระเทศน์สียง #เทศน์แหล่ลาว #ฟังแหล่